ถ้าเกมแข่งรถส่วนใหญ่ที่เคยเล่นมีแค่การเหยียบคันเร่งเข้าเส้นชัยให้เร็วที่สุด Drift Racing: 3v3 กำลังจะเปลี่ยนความเข้าใจนั้นไปโดยสิ้นเชิง เกมนี้ไม่ได้เน้นแค่ความเร็ว แต่ใส่กลยุทธ์แบบทีม เข้ามาด้วยแบบเต็ม ๆ ทำให้ทุกแมตช์กลายเป็นสมรภูมิของการดริฟท์ต่อสู้ แข่งกับเวลา และแข่งกับความคิดของอีกฝั่งในเวลาเดียวกัน
เกมใหม่นี้เพิ่งเปิดตัวไม่นาน แต่กลับกลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็วในหมู่คนชอบดริฟท์ เพราะมันไม่ได้เป็นแค่เกมแข่งรถธรรมดา แต่มันคือการแข่งแบบ 3 ต่อ 3 ที่ต้องอาศัยบทบาท ทีมเวิร์ก และการเล่นแบบคิดไวทำไวอย่างแท้จริง

Drift Racing: 3v3 ไม่ใช่แค่ใครเร็วกว่า แต่คือใครเข้าใจ “เกม” มากกว่า
Drift Racing: 3v3 ไม่ได้เปิดมาให้ใครก็ได้พุ่งไปเข้าเส้นชัยก่อนแล้วชนะ แต่ใช้ระบบแบ่งหน้าที่ภายในทีม 3 คน โดยแต่ละคนจะมีบทบาทเฉพาะ ได้แก่
- Attacker: เน้นชนคู่แข่ง ขัดขวางไม่ให้วิ่งนำ
- Support: เก็บกล่องพลัง คอยเสริมพลังให้เพื่อนในทีม
- Strategist: วางแผนการใช้สกิล จุดระเบิดเกมในจังหวะที่ได้เปรียบที่สุด
ฟังดูเหมือน MOBA ใช่ไหมใช่เลย เพราะนี่คือเกมแข่งรถที่ใช้แนวคิดของเกมแนววางแผนและการทำงานเป็นทีมเข้ามาผสมแบบแนบเนียน ๆ และมันก็เวิร์กมาก
Drift Racing: 3v3 แมตช์ละ 3 นาที ที่ลุ้นยิ่งกว่ารอบไฟนอล
สิ่งที่ทำให้ Drift Racing: 3v3 สนุกมาก ๆ คือทุกแมตช์ใช้เวลาเพียง 3 นาที แต่ใน 180 วินาทีนั้นกลับอัดแน่นด้วยจังหวะระทึกใจแบบไม่มีหยุด ผู้เล่นอาจจะนำแบบชิล ๆ อยู่ 20 วินาทีแรก แต่โดนอีกทีมชนจนตกไปอยู่ท้ายแถว แล้วเพื่อนดันเปิดสกิล Blink Dash ทะลุผ่านทุกคนกลับมาอันดับ 1 แบบไม่รู้ตัว
การแข่งไม่ได้จบแค่ที่เส้นชัย แต่เปลี่ยนได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าทีมของผู้เล่นทำงานประสานกันแค่ไหน ใครจะจ่ายสกิลให้ถูกเวลา หรือใครจะพุ่งไปกันชนคู่แข่งให้เสียจังหวะ จึงกลายเป็นเกมที่ต้องคิดไว เล่นไว และดริฟท์ให้สวยในจังหวะที่ใช่

Drift Racing: 3v3 มีรูปแบบของการใช้รถแบรนด์จริง ดริฟท์มันทุกโค้ง
หนึ่งในจุดขายที่ทำให้เกมนี้ดูดีตั้งแต่แรกเห็นคือ รถยนต์ที่ใช้ในเกมมีหลายรุ่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถชื่อดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Porsche 911, GT-R, Bugatti และอีกหลายรุ่นที่ถูกออกแบบให้ใกล้เคียงต้นฉบับมากที่สุด นอกจากความสมจริงในดีไซน์แล้ว เสียงเครื่องยนต์และเสียงดริฟท์ยังทำออกมาได้ดีจนรู้สึกเหมือนอยู่ในสนามแข่งจริง ยิ่งตอนเข้าโค้งแล้วกดใช้สกิลพร้อมเสียงเอฟเฟกต์ มันจะยิ่งเติมความเร้าใจให้แบบเต็มสปีด

สนามแข่งสวยแปลกตา จากแอนตาร์กติกาถึงบาหลี
สนามใน Drift Racing: 3v3 ไม่ได้เป็นเพียงถนนแบบเมือง ๆ หรือวงกลมเดิม ๆ ที่คุ้นเคย แต่ใช้สถานที่จากทั่วโลกมาดัดแปลงให้กลายเป็นสนามแข่งดริฟท์สุดมัน ไม่ว่าจะเป็นลอสแอนเจลิสยามค่ำคืน, ถนนบนเกาะบาหลี, ทางน้ำแข็งที่ขั้วโลก หรือสนามแบบไซไฟล้ำ ๆ ก็มีให้เลือก สิ่งที่ทำให้แต่ละสนามโดดเด่นคือ “จุดพลิกเกม” ที่ถูกวางไว้ในจุดต่าง ๆ ทั้งทางลัด ทางกระโดด และกล่องสุ่มสกิล ซึ่งถ้าใช้ถูกเวลา จะเปลี่ยนสถานการณ์ในสนามได้ทันที
ระบบปรับแต่งรถที่จัดเต็มยิ่งกว่าเกมไหน
อีกสิ่งที่ผู้เล่นหลายคนหลงรักคือระบบแต่งรถที่ละเอียดแบบสุด ๆ ผู้เล่นสามารถปรับสี ลวดลาย ล้อ ยาง สปอยเลอร์ ไฟใต้ท้อง ไฟหน้า ยันสติกเกอร์บนกระจกได้ตามใจ ใครที่ชอบความยูนีคจะต้องสนุกกับการออกแบบรถในสไตล์ตัวเอง แถมยังสามารถโชว์รถก่อนแข่งได้ ทำให้ผู้เล่นหลายคนใช้เวลานอกสนามไปกับการสร้าง “รถคู่ใจ” ที่ไม่เหมือนใคร
เล่นกับเพื่อนก็ได้ หรือจะลุยเดี่ยวก็สนุก
แม้ว่าเกมจะเน้นระบบทีม แต่ Drift Racing: 3v3 ก็มีระบบจับคู่แบบอัตโนมัติที่ทำให้สามารถเข้าเล่นแมตช์ได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องรอเพื่อน ไม่ว่าจะออนไลน์คนเดียวหรือเล่นแบบทีมเต็ม ก็ยังได้บรรยากาศที่เข้มข้นเหมือนกัน และที่น่าสนใจคือมีระบบแชทพร้อมแปลภาษาอัตโนมัติ ทำให้สามารถสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมจากประเทศอื่นได้แบบเรียลไทม์ เพิ่มโอกาสในการเล่นทีมแบบลื่นไหลมากขึ้น

เสน่ห์ของเกมที่ไม่ได้อยู่แค่ในสนาม
นอกจากการแข่งแล้ว Drift Racing: 3v3 ยังมีระบบสะสมไอเทมรายวัน กล่องสุ่ม ของตกแต่ง และกิจกรรมพิเศษที่จัดเรื่อยๆ ทั้งซีซั่นพาสและภารกิจแบบรายสัปดาห์ ทำให้ผู้เล่นมีเป้าหมายในการกลับมาเล่นเรื่อย ๆ แถมระบบการอัปเลเวลตัวละครยังมีผลกับประสิทธิภาพการใช้สกิล และมีชุดแต่งคาแร็กเตอร์ให้สะสมอีกด้วย ไม่ใช่แค่รถเท่ แต่ตัวผู้เล่นในเกมก็ต้องดูดีด้วย เป็นทางเลือกที่ฉีกแนว มีทั้งความเร็ว การวางแผน และระบบทีมที่น่าสนใจ และมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง ทำให้คอมมูนิตี้ของเกมก็เริ่มขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆนอกจากการแข่งแล้ว Drift Racing: 3v3 ยังมีระบบสะสมไอเทมรายวัน กล่องสุ่ม ของตกแต่ง และกิจกรรมพิเศษที่จัดเรื่อยๆ ทั้งซีซั่นพาสและภารกิจแบบรายสัปดาห์ ทำให้ผู้เล่นมีเป้าหมายในการกลับมาเล่นเรื่อย ๆ แถมระบบการอัปเลเวลตัวละครยังมีผลกับประสิทธิภาพการใช้สกิล และมีชุดแต่งคาแร็กเตอร์ให้สะสมอีกด้วย ไม่ใช่แค่รถเท่ แต่ตัวผู้เล่นในเกมก็ต้องดูดีด้วย เป็นทางเลือกที่ฉีกแนว มีทั้งความเร็ว การวางแผน และระบบทีมที่น่าสนใจ และมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง ทำให้คอมมูนิตี้ของเกมก็เริ่มขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ
จะเห็นได้เลยว่า Drift Racing: 3v3 ไม่ใช่แค่เกมแข่งรถ แต่เป็นสนามประลองของความคิดและการประสานงานแบบเรียลไทม์ ใครจะชน ใครจะเข้าโค้ง ใครจะปล่อยสกิล ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นในเวลาแค่ไม่กี่วินาที เกมนี้เหมาะกับคนที่รักความเร็ว แต่ไม่อยากเล่นคนเดียวแบบโดดเดี่ยว และอยากท้าทายด้วยการร่วมทีมลุยสนามดริฟท์แบบจริงจัง